ตั้งแต่ผลการเลือกตั้งออกมา สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นคือสื่อและรายการต่างๆ ในหลายๆ ช่อง
พยายามออกข่าว สัมภาษณ์ ผู้ที่ทุกคนให้ความเห็นว่า เป็นตัวแปรสำคัญในการปรองดอง
นั่นคือ อดีตนายกทักษิณ
มีการแข่งกันทำข่าวตั้งแต่สัมภาษณ์แสดงความยินดีกับผลเลือกตั้ง ต่อสายให้พูดคุยกับน้องสาว
มีเยอะจนบางคนบอกว่า ตกลงใครได้เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งกันแน่
บางท่านก็บอกว่า สื่อเก่งมากขนาดหนีคดีไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ยังตามเจอได้สบาย
บางคนรู้สึกเฉยๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่า มันจะออกมาเป็นรูปแบบนี้
จนมาถึงวันนี้ ผมได้มีโอกาสดูรายการหนึ่งมีการสัมภาษณ์เหมือนที่ทำกันมา
เลยเริ่มนึกขึ้นมาได้ว่า ทำไมสื่อถึงถามอะไรที่มันเป็นการสร้างคำตอบเดิมๆ
เช่น ได้ข่าวว่าเสียสละในการไม่กลับประเทศ?
ได้ข่าวว่าอาจจะไม่กลับมางานแต่งลูก?
แล้วก็ให้พูดถึงอนาคตประเทศชาติและอยากให้คนจดจำในฐานะอะไร?
คำตอบที่พอจะสรุปได้คือ
ไม่กลับประเทศก็ได้ถ้ามีปัญหา และถึงแม้อยากจะมาแสดงความยินดีกับลูกมากขนาดไหน
แต่เพื่อส่วนรวม ก็พร้อมทำให้
ส่วนอนาคตอยากให้ทุกคนลืมอดีตและก้าวไปข้างหน้า
ตัวเองประสบความสำเร็จแล้วต่อไปขอทำประโยชน์แก่ประชาชนที่ลำบาก
อยากให้คนจดจำเขาไว้ในฐานะคนที่ไม่ทิ้งประชาชนยากจน คนที่รักประเทศ คนที่เคารพในหลวง
........ผมไม่ขอพูดถึงคำตอบ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีความคิดเห็นอยู่ในใจเป็นของตัวเอง....
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะให้สื่อได้ลองทำบ้าง คือ การเปลี่ยนคำถาม เหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้น
อยากเห็นสื่อถามในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย อยากเห็นสื่อที่ถามในสิ่งที่สื่ออยากรู้คำตอบเช่นกัน
อย่าลืมว่าคุณเป็นสื่อ เป็นนักข่าว ไม่ใช่แค่คนรับจ้างถือไมค์ แล้วรับเงินกลับบ้าน
ตอนนี้มีสถานะเป็นบุคคลกระทำผิด มีคดี มีความคิดอยากกลับไปทำให้ถูกต้องเหมือนประชาชนทั่วไปบ้างไหม เพราะมันอาจเป็นการแสดงความตั้งใจในการสร้างความปรองดองทางหนึ่ง?
ถ้ารักประเทศ ทำไมให้คนเผาบ้านเผาเมือง ในเมื่อคุณมีพลังในการชี้นำ?
ถ้ารักในหลวง ทำไมปล่อยให้ให้มีคนในกลุ่มของคุณลบหลู่ จาบจ้วง สถาบันกษัตริย์?
เชื่อว่าหลายคนไม่อยากฟังคำตอบหรอกครับ แต่อยากฟังคำถามที่หลุดจากปากผู้มีโอกาสถามมากกว่า
ไม่ใช่คอยแต่พูดว่า ท่านอย่างโน่น ท่านอย่างนี้ คุณเรียกคนที่มีคดีติดตัวว่าท่าน
ต่อไปลูกหลานจะแยกไม่ออกนะครับว่า ดี ไม่ดี ถูก ผิด มันต่างกันอย่างไร
มันอวยกันจนน่าเบื่อเกินไปครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น