วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

I & Me

ได้ความรู้จากครูมาหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจ และชอบมากครับ

เป็นเรื่องระหว่าง I & Me

I คือ ฉัน Me คือ ฉัน ใครที่เก่งหรือมีความชำนาญเรื่องภาษาอังกฤษคงเข้าใจนะครับ

ว่ามันต่างกันอย่างไร และรู้ว่าเวลาไหนควรใช้ I หรือ Me

แต่เรื่องที่ผมจะขอนำมากล่าวคือ ไอ้คำว่า “ฉัน” ซึ่งเป็นคำแปลทั้งสองคำมันต่างกันยังไง

เขาว่ากันว่า I คือตัวตนของเราที่ประกอบขึ้นมาด้วย ความคิด,ความเชื่อ+ทัศนคติ+ค่านิยม

แต่หลังจากที่ I ก้าวออกจากประตูบ้าน ไปเจอกับกระจกสะท้อนสังคม

I จะกลับมาที่บ้านและเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้กับตนเอง

และเดินออกจากบ้านไปใหม่ พร้อมกับเปลี่ยนความเป็น I กลายเป็น Me

และเชื่อมั่น ภูมิใจกับความเป็น Me

ถ้าใครไม่เข้าใจ ให้คิดภาพตามง่ายๆ ดังนี้

นาย ก แต่งตัวเดินออกจากบ้าน ไปเจอ นาย ข, ค, ง หรือนาง จ

ได้รับคำติโน่นนี้นั่น ไอ้นั้นไม่ดี ไอ้นี่ไม่เอา

ครั้งต่อไปนาย ก จะเปลี่ยนความคิด,ความเชื่อ+ทัศนคติ+ค่านิยม จากเดิม

ให้กลายเป็น ความคิด,ความเชื่อ+ทัศนคติ+ค่านิยม ใหม่ที่นาย ข, ค, ง หรือนาง จ

ยอมรับ

I ก = Me ก

กระจกสะท้อนจากสังคมสามารถทำให้ผู้คนที่อ่อนแอกับความคิดตัวเอง

สามารถเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งได้ และเชื่อว่านี่แหละคือตัวเรา

น่ากลัวนะครับ สำหรับคนหลายๆ คนที่เปลี่ยนไปแบบไม่ทันรู้ตัว

หลายคนกลัวที่จะใส่รองเท้าแตะ ขาสั้นไปเดินห้าง หรือขึ้นเครื่องบิน

หลายคนต้องยืมเงินคนอื่นไปซื้อโทรศัพท์บางยี่ห้อเพื่อมีให้เหมือนเพื่อน

หลายคนเวลาซื้อรถสิ่งที่คำนึงถึงอย่างแรกกลับเป็นสายตาที่คนอื่นมองรถเราแทนที่จะเป็นลักษณะของรถที่จะตอบสนองชีวิตเรา

หลายคนไว้ผมยาวใส่ผ้าใบเพราะอยากให้คนดูว่าเราเป็นคนแบบเซอร์ๆ แต่ชีวิตไม่ได้ใกล้เคียง

ผมเชื่อว่าใครก็สามารถเปลี่ยนจาก I เป็น Me ได้ครับ

แต่ขออย่างเดียว คุณต้องมีเหตุผลเป็นของตัวเอง

และอย่าเดินไปในสังคมเพื่อให้ตัวเองดูดีแค่ในกระจกนะครับ